วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

พักโฆษณา : มหัศจรรย์บุญ(ช่วย)บังตาหรือว่าโจรโง่เอง

พักโฆษณา : มหัศจรรย์บุญ(ช่วย)บังตาหรือว่าโจรโง่เอง ?

สัปดาห์วันเข้าพรรษาและอาสาฬหบูชาเพิ่งจะผ่านพ้นไปหยกๆ และน่าจะเป็นอีกช่วงสัปดาห์
ที่มีวันหยุดยาวติดๆ กันหลายวัน หลายคนก็คงจะถือโอกาสนั้นเดินทางไปทำบุญและพักผ่อน
บางคนออกเดินทางตั้งแต่วันศุกร์และกลับบ้านมาก็วันสุดท้ายของวันหยุดยาว
บางคนที่ไม่ได้ออกต่างจังหวัด ก็พักผ่อนทำบุญอยู่ใกล้ๆ บ้าน


ละแวกบ้าน .. หมู่บ้านเพนกวินนี้ก็เช่นกัน ที่ผู้คนมีทั้งเดินทางออกต่างจังหวัด
และมีทั้งผู้ที่พักผ่อนอยู่แค่รอบๆ พื้นที่กรุงเทพ เพราะสินทรัพย์ไม่อำนวยนั่นก็หนึ่ง
ห่วงบ้านห่วงช่องว่ากลับมาอาจจะเหลือเพียงเสาเรือนก็ด้วยอีกหนึ่ง

ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งที่มีรั้วติดหลังสวนบ้านฉัน ก็เป็นอีกหนึ่งครอบครัว
ที่ไม่ได้เดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัดสนองนโยบายกระจายรายได้ของรัฐ เพราะรายจ่ายแต่ละวัน
ก็แทบจะหารายได้มารองรับไม่ทันอยู่แล้ว พวกเขาจึงเลือกที่จะพักผ่อนอยู่ในกรุงเทพ
และเน้นที่จะเลือกพักผ่อนด้วยการตระเวณไปทำบุญตามวัดต่างๆ ในย่านฝั่งธนและพาลูกสาว
วัย 9 ขวบไปไหว้พระที่พุทธมณฑล


บ่ายวันนั้น .. วันอาสาฬหบูชา ฉันกลับมาจากไปซื้อของใช้ที่อีกซอย

กำลังหอบข้าวของพะรุงพะรังกลับเข้าบ้าน สวนทางกับหัวหน้าครอบครัวนั้น

ที่กระหืดกระหอบเดินสวนทางออกมา

เห็นหน้าฉัน .. ยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยทัก เขาก็เอ่ยออกมาก่อนว่า " คุณ .. แย่เลย บ้านผมถูกงัด "
ฉันร้อง .. ห๊า .. เพราะแทบไม่น่าเชื่อว่าในย่านที่ผู้คนพลุกพล่านอย่างบ้านเขาจะมีใครใจกล้า

งัดเข้าไปเนื่องจากตัวบ้านนั้นมีทางเดินเข้า-ออกของชุมชนขนาบอยู่ถึงสองด้าน

ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง แล้วยังมีบ้านเพื่อนบ้านทั้งติดกันและตรงข้ามอยู่อีกหลายหลัง

ไหนจะยังมีร้านขายของซึ่งไม่เคยปิดร้านไปไหนอยู่เยื้องๆ กันอีก .. แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว


ฉันยังไม่กล้าซักถามอะไรมากเพราะเห็นว่าเขากำลังอยู่ในอาการเร่งรีบ

จึงบอกให้เขาไปแจ้งความก่อน เขาก็ตอบว่าเขากำลังจะไปแจ้งความ .. ไม่นานหลังจากนั้น

ฉันก็เห็นตำรวจเดินทางมาพร้อมกับเขาเพื่อมาตรวจที่เกิดเหตุและสอบถามพยานรอบบ้าน ..

พอตำรวจกลับไปแล้ว ฉันจึงเดินไปที่บ้านนั้น เพื่อที่จะซักถามว่าได้เค้าบ้างมั้ยว่าใครทำ
เนื่องจากชุมชนเราไม่เคยเกิดกรณีงัดบ้านกันมาก่อน เต็มที่ก็เคยมีแต่พวกลักเล็กขโมยน้อย
ขโมยข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ที่ชาวบ้านไม่ได้เก็บเข้าบ้าน อย่างกระถางต้นไม้หรือเสื้อผ้าที่ตากไว้
เขาตอบว่าพอจะรู้ แต่ยังไม่มั่นใจเพราะไม่มีพยานรู้เห็น และเขาก็เล่าต่อไปว่า ..
ทีแรกที่กลับมาถึงบ้านหลังจากพาครอบครัวไปทำบุญ ก็เห็นประตูไม้ภายในตัวบ้านเปิดอ้าซ่า
ก็ยังไม่ค่อยตกใจเพราะคิดว่าลูกสาวไม่ได้กดล็อกแล้วลมอาจจะตีเปิดเพราะประตูรั้วยังมิดชิดดี


พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงเห็นว่า ประตูทั้งถูกงัดและถีบจนไม้แตกเป็นแนวยาว
ยังไม่ทันตรวจสอบว่ามีอะไรหายไปบ้างก็รีบไปตามตำรวจมาก่อน แต่พอตรวจสอบแล้ว
พบว่าไม่มีอะไรหายไปเลย จะมีก็แต่กล่องกำมะหยี่ที่ลูกสาวพี่เขาเอาของเล่น

จำพวกแหวนหัวเพชรหัวพลอยของเด็กๆ วงละไม่กี่บาทใส่ไว้ แต่แหวนทองจริงๆ ของภรรยาเขา

ที่อยู่ในอีกกล่องบนหัวนอนและพระเครื่อง เหรียญกษาปณ์เก่าๆ ที่เขาสะสมมานาน

รวมถึงเงินสดหลายพันที่วางไว้บนโต๊ะในห้องเดียวกันโจรกลับไม่แตะเลย


น่าแปลกดีมั้ยล่ะ .. ฟังเขาเล่าถึงตรงนี้ก็ค่อยหัวเราะกันออกมาได้หน่อยว่า

อย่างน้อยทรัพย์สินมีค่าจริงๆยังคงอยู่ครบถ้วนไม่มีสูญหาย


กลับมาบ้าน ฉันเล่าเรื่องราวให้แม่ฟัง และย้ำให้แม่ปิดล็อกประตูหลังบ้านเวลาที่ฉันไม่อยู่ด้วย
เพราะแม้ว่าเราจะมีรั้วรอบ ขอบชิด มีหมาหลายตัวคอยช่วยเห่าเตือนเวลาที่คนแปลกหน้ามาป้วนเปี้ยน
แต่เราก็ควรจะต้องระแวดระวังมากขึ้นด้วย


สำทับกับแม่ไปว่า น่าประหลาดดีมั้ยที่ไอ้โจรนั่นเสี่ยงปีน-งัดเข้าไปในบ้านเพื่อขโมยของ
แต่กลับฉวยไปได้แค่แหวนของเล่น 1 กล่อง แม่ก็ว่าสงสัยมันคงคิดว่าของจริง
ฉันเองก็ไม่ได้เห็นซะด้วยว่าแหวนของเล่นนั้นมันทำเลียนแบบได้แนบเนียนมากน้อยแค่ไหน
แต่อีกใจหนึ่งของฉันก็คิดว่าอาจจะเป็นกุศลผลบุญที่พวกเขาหมั่นเดินทางออกไปทำบุญนี่ล่ะมั้ง
ที่ช่วยบังตา ไม่ให้ไอ้โจรติงต๊องนั่นเห็นว่าทรัพย์สินมีค่าจริงๆ วางอยู่ใกล้ๆ

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ปริศนาจากดอกบัวในแจกันโต๊ะหมู่บูชาพระ

คุณวิพิศ มหาสารคามมักจะเข้าไปไหว้พระในบ้านของผู้ใหญ่บ้านที่เขาอยู่เป็นประจำ เพราะเป็นญาติกัน ในห้องพระ มีพระพุทธรูป พระเครื่อง เหรียญต่างๆมากมาย ผู้ใหญ่บ้านมักจะได้รับพระมาจากหลายแห่ง มีทั้งคนนำมาให้บ้าง เลยเก็บรวบรวมไว้ที่ห้องพระ


เมื่อวาน คุณวิพิศเข้าไปไหว้พระ แล้วสังเกตเห็นดอกบัวในแจกันด้านซ้าย ดอกเริ่มร่วงโรย แต่ดอกบัวในแจกันขวา ยังดูสด ปกติจะเห็นดอกไม้ในเจกัน เมื่อร่วงโรยก็จะเหมือนกันทั้ง 2 แจกัน...แต่ที่เป็นแบบนี้ เป็นลางร้ายอะไรหรือเปล่านะ ?



ปกติเวลาจัดดอกไม้ใส่แจกัน ก็มักจัดพร้อมกัน ไม่ค่อยมีใคร เอาดอกไม้มาใส่ทีละแจกัน

ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาเห็นก็ตกใจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์กำลังจะบอกอะไรหรือเปล่า เมื่อดอกบัวในแจกันซ้ายเริ่มเหี่ยว แต่แจกันขวายังสดอยู่

ดอกบัว ดอกบัว


คิดหนัก เครียดหนัก....


เมียผู้ใหญ่บ้านกลับจากตลาด ผู้ใหญ่บ้านเล่าให้ฟัง เมียของผู้ใหญ่เลยออกอาการเครียดไปด้วย เธอเป็นคนจัดแจกัน แต่ก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ ดอกบัวที่ตัดเองกับมือ ไม่เคย ไม่เหี่ยวไม่พร้อมกันแบบนี้


คิดอยู่นาน เมียผู้ใหญ่จึงนึกขึ้นมาได้ วันก่อนตัดดอกบัวมา เดินไปเจอคนรู้จักขอดอกบัวไปบูชาพระ เธอเลยแบ่งดอกบัวให้ พอกลับเข้าบ้าน เหลืออยู่ดอกเดียว เลยให้แม่บ้านเดินไปตัดมาอีก 1 ดอก แล้วเอามาจัดแจกัน นำไปวางหน้าโต๊ะบูชาพระ


ตอนที่เมียผู้ใหญ่บ้านไปตัดดอกบัว เธอเอาเชือกด้วยมัดตรงโคนไว้ก่อน แล้วจึงตัดลงไปให้ยาวกว่าที่มัดไว้ ดอกบัวจะอยู่ได้นาน ไม่ร่วงโรยเหี่ยวแห้งเร็ว แต่แม่บ้านเด็ดดอกบัวอย่างธรรมดา ทำให้ดอกบัวร่วงโรยเมื่อเวลาผ่านไปได้แค่ 2 วันเท่านั้น


เมื่อเจอสิ่งที่ผิดปกติ หลายคนตกใจกับสิ่งที่เห็น ไม่ค่อยๆคิดให้รอบคอบ ทั้งๆที่หลายเรื่อง ถ้าตรวจสอบ - ถามให้ชัดเจน ก็จะรู้ความจริงได้ไม่ยากนัก

ข้อมูล ข้อคิด จาก - คุณวิพิศ มหาสารคาม


วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

"อภิสิทธิ์" รับมอบพระเครื่อง-วัตถุมงคลจากพระสงฆ์ร้อยเอ็ด

"อภิสิทธิ์" รับมอบพระเครื่อง-วัตถุมงคลจากพระสงฆ์ร้อยเอ็ด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ก.พ. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาร่วมประชุม ส.ส.พรรค โดยก่อนที่นายอภิสิทธ์จะเข้าร่วมประชุมนั้น มีพระสงฆ์จากวัดบูรพาภิราม จ.ร้อยเอ็ด นำสายสิญจน์ผูกข้อมือให้กับนายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นยังได้นำพระเครื่องจำนวน 10 องค์อาทิ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ชาลี หลวงปู่ดุล และผ้ายันต์ของหลวงพ่อคูณมามอบให้นายกรัฐมนตรีเพื่อเป็นสิริมงคลด้วย


วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

สำนักนายกฯจัดประกวด-นิทรรศการ"พระเครื่อง"

สปน. จัดประกวดพระเครื่องชิงถ้วยพระราชทาน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กำหนดจัดนิทรรศการ การประกวด การอนุรักษ์พระบูชา พระเครื่อง และเหรียญคณาจารย์ วันที่ 20-21 ธันวาคม ณ อาคารหอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ กรุงเทพฯ

นายวชิระ เพ่งผล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะทำงานประสานงานโครงการจัดนิทรรศการฯ กล่าวเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมว่า การจัดนิทรรศการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสุขทางใจ รวมทั้งยังเป็นการทำนุบำรุงกิจการทางด้านพุทธศาสนา อนุรักษ์พุทธศิลปะไทย และความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมในทางพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างภาครัฐและประชาชนอีกด้วย

นายวชิระ เพ่งผล กล่าวต่อไปว่า การจัดนิทรรศการการประกวดพระในครั้งนี้จะมีขึ้นในวัน 20-21 ธันวาคม ที่อาคารหอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ กรุงเทพฯ โดยในวันเสาร์จะจัดนิทรรศการให้ประชาชนและผู้ที่สนใจเข้าชม เช่า หรือแลกเปลี่ยนพระเครื่องจากแผงพระทั่วประเทศ ซึ่งจะมาร่วมจัดแสดงพระเครื่อง พระบูชา และเหรียญคณาจารย์ กว่า 1,000 แผง เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00-16.00 น. สำหรับวันอาทิตย์จะมีการประกวดพระโดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. จะรับพระจากผู้ที่สนใจส่งเข้าประกวด และจะปิดรับพระในเวลา 13.30 น. การตัดสินพระจะเริ่มในเวลา 14.00 น. ซึ่งหลังจากตัดสินแล้วจะคืนพระทุกรายการให้กับเจ้าของ จากนั้นในเวลา 17.00 น. จะมีพิธีมอบรางวัลให้แก่ผู้ชนะการประกวด โดยมีรางวัลรวม 3 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศคะแนนรวม ซึ่งเป็นถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลชนะเลิศประเภทพระยอดนิยม เป็นถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี และรางวัลชนะเลิศประเภทพระทั่วไป เป็นถ้วยรางวัลจากนายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

นายวชิระ เพ่งผล กล่าวว่า งานครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากเซียนพระดังๆ ที่จะมาร่วมเป็นกรรมการตัดสินโดยใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาการตัดสินที่เป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้ ในการนี้ จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีพระดี พระแท้ หรือผู้ที่ต้องการทราบว่า พระของตนอยู่ในความสมบูรณ์ระดับใด