พักโฆษณา : มหัศจรรย์บุญ(ช่วย)บังตาหรือว่าโจรโง่เอง ?
สัปดาห์วันเข้าพรรษาและอาสาฬหบูชาเพิ่งจะผ่านพ้นไปหยกๆ และน่าจะเป็นอีกช่วงสัปดาห์
ที่มีวันหยุดยาวติดๆ กันหลายวัน หลายคนก็คงจะถือโอกาสนั้นเดินทางไปทำบุญและพักผ่อน
บางคนออกเดินทางตั้งแต่วันศุกร์และกลับบ้านมาก็วันสุดท้ายของวันหยุดยาว
บางคนที่ไม่ได้ออกต่างจังหวัด ก็พักผ่อนทำบุญอยู่ใกล้ๆ บ้าน
ละแวกบ้าน .. หมู่บ้านเพนกวินนี้ก็เช่นกัน ที่ผู้คนมีทั้งเดินทางออกต่างจังหวัด
และมีทั้งผู้ที่พักผ่อนอยู่แค่รอบๆ พื้นที่กรุงเทพ เพราะสินทรัพย์ไม่อำนวยนั่นก็หนึ่ง
ห่วงบ้านห่วงช่องว่ากลับมาอาจจะเหลือเพียงเสาเรือนก็ด้วยอีกหนึ่ง
ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งที่มีรั้วติดหลังสวนบ้านฉัน ก็เป็นอีกหนึ่งครอบครัว
ที่ไม่ได้เดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัดสนองนโยบายกระจายรายได้ของรัฐ เพราะรายจ่ายแต่ละวัน
ก็แทบจะหารายได้มารองรับไม่ทันอยู่แล้ว พวกเขาจึงเลือกที่จะพักผ่อนอยู่ในกรุงเทพ
และเน้นที่จะเลือกพักผ่อนด้วยการตระเวณไปทำบุญตามวัดต่างๆ ในย่านฝั่งธนและพาลูกสาว
วัย 9 ขวบไปไหว้พระที่พุทธมณฑล
บ่ายวันนั้น .. วันอาสาฬหบูชา ฉันกลับมาจากไปซื้อของใช้ที่อีกซอย
กำลังหอบข้าวของพะรุงพะรังกลับเข้าบ้าน สวนทางกับหัวหน้าครอบครัวนั้น
ที่กระหืดกระหอบเดินสวนทางออกมา
เห็นหน้าฉัน .. ยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยทัก เขาก็เอ่ยออกมาก่อนว่า " คุณ .. แย่เลย บ้านผมถูกงัด "
ฉันร้อง .. ห๊า .. เพราะแทบไม่น่าเชื่อว่าในย่านที่ผู้คนพลุกพล่านอย่างบ้านเขาจะมีใครใจกล้า
งัดเข้าไปเนื่องจากตัวบ้านนั้นมีทางเดินเข้า-ออกของชุมชนขนาบอยู่ถึงสองด้าน
ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง แล้วยังมีบ้านเพื่อนบ้านทั้งติดกันและตรงข้ามอยู่อีกหลายหลัง
ไหนจะยังมีร้านขายของซึ่งไม่เคยปิดร้านไปไหนอยู่เยื้องๆ กันอีก .. แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว
ฉันยังไม่กล้าซักถามอะไรมากเพราะเห็นว่าเขากำลังอยู่ในอาการเร่งรีบ
จึงบอกให้เขาไปแจ้งความก่อน เขาก็ตอบว่าเขากำลังจะไปแจ้งความ .. ไม่นานหลังจากนั้น
ฉันก็เห็นตำรวจเดินทางมาพร้อมกับเขาเพื่อมาตรวจที่เกิดเหตุและสอบถามพยานรอบบ้าน ..
พอตำรวจกลับไปแล้ว ฉันจึงเดินไปที่บ้านนั้น เพื่อที่จะซักถามว่าได้เค้าบ้างมั้ยว่าใครทำ
เนื่องจากชุมชนเราไม่เคยเกิดกรณีงัดบ้านกันมาก่อน เต็มที่ก็เคยมีแต่พวกลักเล็กขโมยน้อย
ขโมยข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ที่ชาวบ้านไม่ได้เก็บเข้าบ้าน อย่างกระถางต้นไม้หรือเสื้อผ้าที่ตากไว้
เขาตอบว่าพอจะรู้ แต่ยังไม่มั่นใจเพราะไม่มีพยานรู้เห็น และเขาก็เล่าต่อไปว่า ..
ทีแรกที่กลับมาถึงบ้านหลังจากพาครอบครัวไปทำบุญ ก็เห็นประตูไม้ภายในตัวบ้านเปิดอ้าซ่า
ก็ยังไม่ค่อยตกใจเพราะคิดว่าลูกสาวไม่ได้กดล็อกแล้วลมอาจจะตีเปิดเพราะประตูรั้วยังมิดชิดดี
พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงเห็นว่า ประตูทั้งถูกงัดและถีบจนไม้แตกเป็นแนวยาว
ยังไม่ทันตรวจสอบว่ามีอะไรหายไปบ้างก็รีบไปตามตำรวจมาก่อน แต่พอตรวจสอบแล้ว
พบว่าไม่มีอะไรหายไปเลย จะมีก็แต่กล่องกำมะหยี่ที่ลูกสาวพี่เขาเอาของเล่น
จำพวกแหวนหัวเพชรหัวพลอยของเด็กๆ วงละไม่กี่บาทใส่ไว้ แต่แหวนทองจริงๆ ของภรรยาเขา
ที่อยู่ในอีกกล่องบนหัวนอนและพระเครื่อง เหรียญกษาปณ์เก่าๆ ที่เขาสะสมมานาน
รวมถึงเงินสดหลายพันที่วางไว้บนโต๊ะในห้องเดียวกันโจรกลับไม่แตะเลย
น่าแปลกดีมั้ยล่ะ .. ฟังเขาเล่าถึงตรงนี้ก็ค่อยหัวเราะกันออกมาได้หน่อยว่า
อย่างน้อยทรัพย์สินมีค่าจริงๆยังคงอยู่ครบถ้วนไม่มีสูญหาย
กลับมาบ้าน ฉันเล่าเรื่องราวให้แม่ฟัง และย้ำให้แม่ปิดล็อกประตูหลังบ้านเวลาที่ฉันไม่อยู่ด้วย
เพราะแม้ว่าเราจะมีรั้วรอบ ขอบชิด มีหมาหลายตัวคอยช่วยเห่าเตือนเวลาที่คนแปลกหน้ามาป้วนเปี้ยน
แต่เราก็ควรจะต้องระแวดระวังมากขึ้นด้วย
สำทับกับแม่ไปว่า น่าประหลาดดีมั้ยที่ไอ้โจรนั่นเสี่ยงปีน-งัดเข้าไปในบ้านเพื่อขโมยของ
แต่กลับฉวยไปได้แค่แหวนของเล่น 1 กล่อง แม่ก็ว่าสงสัยมันคงคิดว่าของจริง
ฉันเองก็ไม่ได้เห็นซะด้วยว่าแหวนของเล่นนั้นมันทำเลียนแบบได้แนบเนียนมากน้อยแค่ไหน
แต่อีกใจหนึ่งของฉันก็คิดว่าอาจจะเป็นกุศลผลบุญที่พวกเขาหมั่นเดินทางออกไปทำบุญนี่ล่ะมั้ง
ที่ช่วยบังตา ไม่ให้ไอ้โจรติงต๊องนั่นเห็นว่าทรัพย์สินมีค่าจริงๆ วางอยู่ใกล้ๆ